ล้างแอร์ พุทธบูชา บริการล้างแอร์บ้าน ร้านล้างแอร์แถวพุทธบูชา จองคิวช่าง

ล้างแอร์ พุทธบูชา

Air-con Bangkok แอร์เซฮร์ซิส ช่างแอร์ ล้างแอร์บ้าน บริการ ล้างแอร์ พุทธบูชา บริการล้างแอร์บ้าน ร้านล้างแอร์แถวพุทธบูชา จองคิวช่าง บริการล้างแอร์ พุทธบูชา พระราม 2 ท่าข้าม บริการล้างแอร์ หมู่บ้าน โครงการ แถวพุทธบูชา ย่านพระราม2 ท่าข้าม ล้างแอร์ ให้สะอาด ปลอดภัย ไร้เชื้อโรค ด้วยทีมงานมืออาชีพ “เบื่อไหมกับปัญหาแอร์ไม่เย็น แอร์สกปรก แอร์มีกลิ่นอับ? ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเรา ทีมช่างแอร์ Air-con Bangkok ยินดีให้บริการ งานด้าน แอร์เซอร์วิส บริการล้างแอร์ ล้างแอร์ พุทธบูชา ด้วยทีม ช่างล้างแอร์ คุณภาพ ตรงต่อเวลา เซอร์ซิส บริการล้างแอร์ เขตบางขุนเทียน พร้อมด้วยอุปกรณ์ เครื่องมือช่างมาตรฐาน ดูแลแอร์ ของคุณ ให้สะอาดหมดจด ปลอดภัยจากเชื้อโรค และประหยัดพลังงานมากขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพ ที่ดีแต่ผู้อาศัย. ร้าน ล้างแอร์ พุทธบูชา บริการล้างแอร์บ้าน ร้านล้างแอร์แถวพุทธบูชา ท่าข้าม พระราม2 บางขุนเทียน จองคิวช่าง ได้เลย ยินดีให้ บริการล้างแอร์

บริการล้างแอร์ พุทธบูชา

ครบเครื่อง เรื่องแอร์ Air-con Bangkok

ล้างแอร์ พุทธบูชา บริการล้างแอร์ ด้วยน้ำยาขจัดคราบ และ โฟมดับกลิ่นหืน บริการล้างแอร์บ้าน จอมทอง ล้างแอร์คอนโด เขตจอมทอง ล้างแอร์ที่พัก อพาร์ทเม้นท์ ห้องพัก พุทธบูชา ท่าข้าม พระราม2 บางขุนเทียน บริการล้างแอร์ ประเภทแบบต่างๆเช่น

ล้างแอร์ พุทธบูชา บริการล้างแอร์บ้าน ร้านล้างแอร์แถวพุทธบูชา ท่าข้าม พระราม2 บางขุนเทียน

บริการล้างแอร์ พุทธบูชา บางมด โดย ช่างแอร์ ล้างแอร์บ้าน ร้านล้างแอร์ แอร์เซอร์วิส พุทธบูชา เมื่อถึงคราวถึงเวลาต้องการ ล้างแอร์ Air-con Bangkok แอร์เซฮร์วิส. เมืองเราเป็นเมืองร้อน และ แวดล้อมด้วยฝุ่นละออง ต่างๆ อีกหนึ่ง เแอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟ้ฟ้า ที่มีความสำคัญ สำหรับทีพักอาศัย ที่ทำงาน นั่นคือ แอร์ – เครื่องปรับอากาศ ที่ต้องเปิดแอร์ อยู่เป็นประจำ ดังนั้น จึงมีความสำคัญ และ จำเป็น ต่อ แอร์ เครื่องปรับอากาศ ที่ได้ใช้เป็นประจำ ทุกวัน คือการดูแล แอร์ เพื่อการทำงานของแอร์ ให้มีประสิทธิภาพ อยู่เสมอ ลดการเสียหาย ซ่อมแอร์ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ประหยัดพลังงาน เซฟค่าไฟ แอร์สะอาด ปราศจาก เชื้อโรค แบ็คทีเรีย ต่างๆ ที่หมักหมมภายในแอร์ เครื่องปรับอากาศ “Air-con Bangkok ยินดีให้ บริการล้างแอร์ จอมทอง ฝั่งธนบุรี กรุงเทพ

บริการล้างแอร์

ล้างแอร์ เครื่องปรับอากาศ ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า คู่บ้านคู่ห้อง ทุกสถานที่ หากอยู่ในเมืองถือว่าขาดไม่ได้ ในการใช้ชีวิต ของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าคน หรือสัตว์เลี้ยง ล้วนต้องพึ่ง แอร์ เครื่องปรับอากาศ ยิ่งในบ้านเืองเรา ซึ่งเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน จำเป็นอย่างยิ่งที่ ต้องใช้แอร์ เครื่องปรับอากาศ เมื่อมีการใช้แอร์เป็นประจำ ต่อเนื่อง จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการดูแลรักษาแอร์ ให้มากขึ้น และขาดไม่ได้ เพื่อให้แอร์นั้นมี ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น และประหยัดเงินจากการจ่ายค่าไฟ แถมยังได้อากาศ และ สุขภาพดีๆ นั่นก็คือการ ล้างแอร์ บริการล้างแอร์ ประเภทต่างๆ

ล้างแอร์ แอร์ติดผนัง

ล้างแอร์ แอร์ฝังฝ้า

ล้างแอร์ แอร์แขวน

ล้างแอร์ แอร์สี่ทิศทาง

ขั้นตอน ล้างแอร์ ทํายังไง

ล้างคอยล์เย็น ส่วนในห้อง

ก่อนทำการ ล้างแอร์ ทดสอบการทำงานของแอร์ ก่อนทำการล้างแอร์
คลุมสิ่งของ ต่างๆ ที่อยู่ใต้แอร์ หรือใกล้เคียง เพื่อปกป้อง ด้วยผ้ากันฝุ่นละออง
ใช้ผ้ารองบรรได เพื่อป้องกันการเป็นรอย ขูดขีดข่วนบนพื้น
ปิดเบรคเกอร์ ควบคุมแอร์
ตรวจเช็คไฟ ที่แอร์ ว่ายังมีประแสไฟ ที่แอร์อยู่ไหม ตรวจเช็คด้วยไขควงวัดไฟ
ทำการ ถอดชุดหน้ากากแอร์
คลุมผ้าใบ ที่ คอยล์เย็น
ฉีดน้ำยาขจัดคราบ เพื่อให้แอร์ ให้สะอาดยึ่งขึ้น
ทำการ ฉีดล้างฟินคอยล์ ด้วยปั้มแรงดันสูง ให้สะอาดจนกว่าน้ำที่ฉีดล้างไหลผ่าน ฟินคอยล์แอร์ จนกว่าน้ำจะใส
อัดฉีด ท่อน้ำทิ้ง ให้โล่ง ด้วยปั้มแรงดันสูง
ใช้โฟมสำหรับล้างแอร์ ฉีดให้ทั่ว ฟินคอยล์ เพื่อกำจัดเชื้อแบ็คทีเรีย และ กลิ่นอับหืน ภายในแอร์ เพื่อให้แอร์สะอาดมากยิ่งขึ้น
ใช้โบว์โว่ ลมเป่า เป่าที่ ฟินคอยล์แอร์ แห้ง และ ส่วนต่างๆ ของ คอลย์เย็น
ประกอบหน้ากากแอร์
เปิดเบรคเกอร์แอร์
ตรวจเช็คการทำงาน รีโมท และ ประสิทธิภาพ ความเย็น ของแอร์
แนะนำการตรวจเช็ค ต่อลูกค้า พร้อมให้ลูกค้า ทดสอบการทำงานของแอร์ หลัง ล้างแอร์

ล้างคอยล์ร้อน ส่วนด้านนอกห้อง

การล้างส่วนด้านนอก คอยล์ร้อนแอร์ จะใช้ปั้มแรงดันสูงฉีด ล้างคอยล์ร้อน ที่ ฟินคอยล์ ของ คอยล์ร้อน ให้สะอาด ไม่มีฝุ่น หรือสิ่งบดบังการทำงาน ของ คอล์ยร้อน และ เพื่อประสิทธิภาพ การทำงาน ของแอร์ได้ดีขึ้น เพราะหาก คอยล์ร้อน ไม่สะอาด สกปรกมีสิ่งอุดตัน ก็มีผล ต่อการทำความเย็น ของแอร์ และ อุปกรณ์อื่นๆภายใน คอยล์ยร้อน อาจเสียหายได้ ในอนาคต

จะรู้ได้ยังไงว่าถึงคราวจะ ล้างแอร์

รู้ได้ไงว่าต้องล้างแอร์ ถึงเวลาที่ต้องล้างแอร์ สังเกตุได้จากอะไร แอร์ ควรล้าง เมื่อไหร่ ควรล้างแอร์ทุกๆกี่เดือน ควรล้างแอร์กี่ครั้งต่อปี เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงอยากทราบคำตอบ คำแนะนำเกี่ยวกับคำถามนี้ ให้ท่านสังเกตเกี่ยวกับการทำงานแอร์ของท่าน เช่น แอร์ความเย็นลดลง ไม่เหมือนปรกติ ที่เคยมา แอร์มีกลิ่น มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ออกมาจากลมแอร์ เช่น กลิ่นอับหืน ผิดปรกติ ไม่เหมือนเดิม นั่นแสดงว่าแอร์ด้านในมีสิ่งสกปรกหมักหมมจำนวนมาก แอร์มีเสียงดังฟู่ฟ่า ออกจากคอลย์เย็น ลมแอร์กระจายไม่สม่ำเสมอ บางเครื่องมีอาการ แอร์น้ำหยด ที่เกิดจากสิ่งสกปรก แอร์มีเมือกอุดตัน ท่อน้ำทิ้งแอร์ตัน แอร์ตัดบ่อย หรือ อาการผิดปกติอื่นๆ อาการดังกล่าว เป็นสัญญาณ บอกได้ว่า ถึงเวลาที่จะต้อง ล้างแอร์ ได้แล้ว สัญญาณบอกว่า ท่านควรจะ ล้างแอร์แล้ว ดังนี้
✅ลมแอร์ไม่เย็นเท่าเดิม เนื่องจากแอร์ไม่สามารถทำความเย็นได้เหมือนก่อน เป็นเพราะฝุ่นสะสม สิ่งสกปรก ในคอยล์เย็น
✅แอร์มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา เป็นสัญญาณว่ามีเชื้อรา หรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่ภายในแอร์
✅แอร์มีเสียงดังผิดปกติ เมื่อเครื่องทำงาน จะมีเสียงผิดปกติที่ดังขึ้นกว่าปกติ
✅มีน้ำหยดจากแอร์ บ่งบอกว่าระบบระบายน้ำอาจมีปัญหาหรือท่อตัน
✅ค่าไฟสูงขึ้นกว่าปกติ หากแอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้เย็น ค่าไฟจะเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณว่าควร ล้างแอร์
✅โดยปกติควร ล้างแอร์ ทุก ๆ 6 เดือน หรือ 3 เดือน หากใช้งานหนักและอยู่ในสภาวะแวดล้อมด้วยมลพิษ ฝุ่น

ประโยชน์ ล้างแอร์ มีอะไรบ้าง

ประหยัดไฟ ลดค่าใช้จ่าย เนื่องจาก มีสิ่งหมักหมด ฝุ่นละออง สะสมมากๆ จะทำให้แอร์ ทำงานหนัก กินกระแสไฟ มากกว่าเดิม
ป้องกันและลดการ ซ่อมแอร์ อุปกรณ์ต่างๆที่เป็นส่วนประกอบของแอร์ ซึ่งอาจจะมีผลเสียหาย อันเนื่องจากการขาดการดูแลแอร์ อย่างต่อเนื่อง จะทำให้แอร์สะอาด ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เป็นการดูแลแอร์ ที่ดีอย่างหนึ่ง
ป้องกันเชื้อโรค ต่างๆ ที่เกิดจากการหมักหมม สิ่งสกปรกที่อยู่ในแอร์ เป็นการขจัดสิ่งอับชื้น และ กำจัดเชื้อโรค
แอร์ทำงานได้อย่างประสิทธิภาพ เห็นได้ชัดหลังล้าง อากาศสดชื่น ไร้สิ่งสกปรกอุดตัน

ข้อเสียของการไม่ล้างแอร์

แอร์ไม่เย็น แอร์มีลมเย็นน้อย สัมผัสลมแอร์ไม่มีความเย็น ได้อย่างชัดเจน
แอร์ จะกลายเป็นแหล่งการสะสมของ เชื้อแบคทีเรีย และความชื้น ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ และยังก่อให้เกิด โรคทางเดินหายใจได้ การไม่ล้างแอร์ อาจเป็นต้นเหตุ อันตรายจากการไม่ล้างแอร์ สำหรับผู้ป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด แพ้อากาศ ฯลฯ
ไม่ล้างแอร์ เสียค่าไฟเยอะ เนื่องจาก การอุดตันของแอร์ จากฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ จะทำให้มีผลเสียต่อตัวเครื่อง ทำให้แอร์ทำงานหนัก กินกระแสไฟฟ้า
ลดค่าซ่อมแอร์ ค่าใช้จ่ายที่บานปลาย ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาต อันเนื่องจากไม่ดูแลแอร์ ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ โดยการ ไม่ล้างแอร์

หากแอร์ไม่ค่อยได้เปิด จำเป็นต้องล้างแอร์ไหม

แอร์ไม่ค่อย ได้ใช้ ต้องล้างไหม แอร์ไม่ได้เปิดนาน เป็นไรไหม แอร์ไม่ค่อยได้เปิด ต้องล้างไหม เบื้องต้นแนะนำให้หมั่นตรวจเช็ค แผ่นกรอง ฟิลเตอร์แอร์ ว่าสกปรกไหม หากสกปรกให้นำออกมาล้างฝุ่นออก แล้วตากแห้งสนิท ตรวจดูฟินคอลย์แอร์ ว่ามีสิ่งอุดตัน สกปรกไหม แล้วนำฟินเตอร์ กรองฝุ่นแอร์ มาใส่ไว้เหมือนเดิม ให้ทำการ เปิดแอร์ทดสอบประมาณ 10-15 นาที โดยให้สังเกตุ การทำงานของแอร์ ยังคงทำ ความเย็นออกมาได้ดีไหม ลมแอร์แรง และ ลมแอร์ ยังมีความเย็นสม่ำเสมอไหม หากทุกอย่างยังปรกติ ไม่จำเป็นต้องล้าง หากแอร์มีสิ่งผิดปรกติแนะนำ ให้ล้าง โดยทีมช่างทำการตรวจเช็ค หลังล้างด้วย กรณีไม่ค่อยได้ใช้ แอร์ไม่ค่อยได้เปิด แนะนำ 1 ปี ล้างครั้ง

นานเท่าไหร่ถึงจะ ล้างแอร์

ล้างแอร์ ทุก 3 เดือน

สำหรับแอร์ที่ใช้งานหนัก เปิดตลอด ทั้งกลางวัน กลางคืน อีกทั้งยังอยู่ ภายสิ่งแวดล้อม มลพิษ ฝุ่นมากมาย เช่น อยู่ใกล้กับถนน หรือ บริเวณที่มีฝุ่นเยอะ จะทำให้แอร์ตันเร็ว มีความเย็นลดลง แนะนำ ล้างแอร์ ทุก 3 เดือน

ล้างแอร์ ทุก 6 เดือน

สำหรับแอร์ เครื่องปรับอากาศ โดยทั่วไป ที่ใช้ปรกติ ไม่มีมลพิษ ฝุ่นละออง ไม่มากนัก โดยมาตรฐาน ผู้ผลิต เครื่องปรับอากาศ แนะนำให้ ล้างแอร์ ทุก 6 เดือน

ล้างแอร์ทุก 12 เดือน

ล้างแอร์ปีละครั้ง สำหรับ แอร์ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ได้เปิดประจำ นานๆค่อยจะเปิดใช้ แอร์ไม่มีฝุ่นเยอะ หมั่นตรวจเช็ค การทำงานของแอร์อยู่เสมอ แบบนี้ 1 ปี ล้างที เพื่อเป็นการบำรุงดูแลรักษา แอร์อยู่ตลอด

แอร์ inverter กี่เดือน ล้าง แอร์ระบบธรรมดา กี่เดือนล้าง ควรล้างแอร์กี่เดือน ควรล้างแอร์ทุกๆกี่เดือน คำถามที่เจอบ่อยเกี่ยวกับล้างแอร์ การล้างแอร์ นั้นขึ้นอยู่กับการเปิดใช้งานแอร์ของแต่ล่ะท่าน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่างแอร์ ผู้ผลิดแอร์ จะแนะนำให้ล้างแอร์ ทุก ๆ 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง หากเว้นระยะนานไปมากกว่านี้ แอร์ของท่าน จะเกิดการสะสมของฝุ่น และ สิ่งสกปรก ที่จะทำให้ส่งผลเสีย การทำงานของแอร์ ได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย หากคุณมีการใช้งานแอร์เป็นประจำทุกวัน เบื้องต้น ควรเช็คแผ่นกรองอากาศ ฟิลเตอร์ อย่างเสม่ำเสมอ หากพบว่ามีฝุ่นเกาะหนาให้ทำความสะอาดทันที เนื่องจากการที่มีฝุ่นเกาะที่ฟิลเตอร์แอร์หนา จะทำให้แอร์ ไม่สามมารถทำงานได้ดี และ กระจายลมเย็นลดน้อยลง อีกทั้งยังทำให้แอร์ ทำงานหนัก ควรหมั่นดูแลรักษาแอร์เป็นประจำ จะทำให้แอร์ของท่าน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ยังเป็นผลดีต่อ สุขภาพผู้อยู่อาศัย อีกด้วย

แอร์มีกลิ่นเหม็นอับเวลาเปิด เพราะอะไร

แอร์เหม็นอับ เวลาเปิด แอร์มีกลิ่นเหม็นฉี่ แอร์มีกลิ่นอับ แก้ไขอย่างไร แอร์เหม็นเปรี้ยว แอร์บ้าน มีกลิ่นเคมี แอร์มีกลิ่นอับ สาเหตุที่ทำให้ แอร์มีกลิ่นเหม็น เนื่องจากได้เปิดแอร์ เป็นประจำ และ ใช้แอร์ตลอดเวลา อุณหภูมิเท่าเดิมทุกวัน เป็นสาเหตุ ทำให้เกิดจากความชื้นตกค้าง ภายในแอร์ และทำให้เกิดเชื้อราบางชนิด ขึ้นมา จนแอร์มี กลิ่นเหม็นอับ แนวทางแก้ไขเบื้องต้น ให้ใช้โหมดลดความชื้น โดย กดรีโมท ที่ โหมด Dry โหมดที่เหมาะสำหรับการ ลดความชื้นของแอร์ เป็นรูปหยดน้ำ โหมดนี้ จะไม่สามารถปรับตั้งอุณหภูมิได้ แอร์จะทำงานในโหมด ลดความชื้นในตัวแอร์. หากไม่หาย แนะนำให้ ช่างแอร์ มาทำการล้างแอร์ หรือตรวจเช็ค หาสาเหตุ ที่มาของกลิ่น อาจมาจากสาเหตต่างๆได้ เช่น จิ้งจก มด แมลงสาบ หนู เข้าไปทำรังหรือซ่อนตัวอยู่ในนั้น

แอร์มีน้ำหยด แอร์มีน้ำไหล เกิดจากอะไร

แอร์มีน้ําหยด เกิดจากอะไร น้ำแอร์หยด เปิดแอร์ได้ไหม น้ำแอร์หยด อันตรายไหม สาเหตุที่แอร์มีน้ำหยด ที่ได้พบบ่อยคือการอุดตันของ ท่อน้ำทิ้งแอร์ ซึ่งเกิดจากสิ่งสกปรกหมักหม ภายในแอร์ คอยล์เย็น แล้วลงมาที่ถาดน้ำทิ้งแอร์ แล้วผ่านมาทางท่อน้ำทิ้ง เมื่อมีสิ่งหมักหมม สะสมมาก ท่อน้ำทิ้งก็จะอุดตันทำให้เกิดอาการ แอร์มีน้ำรั่ว หรือ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องชำรุด เช่น รางน้ำทิ้งชำรุด แตก สายท่อน้ำทิ้งชำรุด พลาสติกเสื่อมสภาพ หรือ หลวมหลุด ล้วนเป็นสาเหตุทำให้ แอร์มีน้ำรั่ว ส่วนสาเหตุอื่นที่เกี่ยวข้อง ติดตั้งแอร์ ไม่ได้มาตรฐาน ไม่สโลป ท่อน้ำทิ้งยาว คดเคี้ยว จุดงอเข้ามุมเยอะ ก็เป็นสาเหตุทำให้ท่อตันเร็ว และ มีน้ำรั่ว ได้เร็วขึ้นกว่าปรกติ น้ำแอร์หยด อันตรายไหม เปิดได้ไหม แอร์มีน้ำหยดไม่เป็นอันตราย และ สามารถเปิดได้ ยกเว้นน้ำที่หยดลงมาโดนปลั๊กไฟ เครื่องอิเล๊คโทรนิค อื่นๆ แนะนำให้ ช่างแอร์ มาทำการล้างแอร์และทำการ ซ่อมอาการแอร์มีน้ำรั่ว

ทุกครั้ง ล้างแอร์ ต้องเติมน้ำยาแอร์ ด้วยไหม

จําเป็นต้องเติมน้ํายาแอร์ไหม จะรู้ได้ไงว่าน้ำยาแอร์หมด น้ำยาแอร์บ้านหมดดูตรงไหน ดูยังไงว่าต้องเติมน้ำยาแอร์ ควรเติมน้ำยาแอร์ทุกกี่เดือน น้ำยาแอร์นั้นมีทั้งเติม และ ไม่ต้องเติม มาทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ น้ำยาแอร์ ที่อยู่ในระบบแอร์ หากระบบไม่มีความผิดปกติยังทำงานได้ดี แอร์ไม่มีการรั่วซึมจากบริเวณต่างๆ เช่น เซอร์วิสวาลว์ ศรวาล์ว ไส้สร แฟร์นัทแอร์ ท่อทางเดินน้ำยา แผงคอยล์เย็น แผงคอล์ยร้อน แล้ว น้ำยาแอร์ นั้นจะยังคงอยู่ในระบบ และไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาเพิ่มเข้าไปในระบบ กรณีที่ต้องเติมน้ำยาแอร์ นั่นคือ หลังล้างแอร์ ได้ทำการตรวจเช็คแรงดันน้ำยาแอร์ แล้ว ปรากฏว่า แรงดันน้ำยาแอร์ ไม่เพียงพอ ที่จะทำความเย็นได้ ตามมาตรฐาน ของแรงดันน้ำยานั้นๆ กรณีนี้ หากไม่มีการ เติมน้ำยาแอร์ แอร์จะไม่มีความเย็น เนื่องจาก น้ำยาแอร์ขาด ซึ่ง อาจเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น แอร์รั่วซึม ทำให้ น้ำยาแอร์ขาด อาการแอร์ไม่เย็น มีหลายสาเหตุ เช่น อุปกรณ์อื่นๆ เสียหาย ชำรุด ไม่ทำงาน ก็เป็นเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ แอร์ไม่เย็น ได้

สัญลักษณ์ต่างๆบนรีโมทแอร์

Dry Mode : จะทำการลดความชื้น ภานในแอร์ ทำให้แห้ง ลดกลิ่นอับชื้น
Fan Mode : โหมดพัดลม เป็นการปรับให้ทำงาน เฉพาะพัดลม เท่านั้น จะมีเฉพาะ ลมออกมากจากพัดลม จะไม่มี ลมเย็น
Cooling Mode : โหมดทำความเย็น ตามปรกติ ของแอร์ เมื่อต้องการ ความเย็น จากแอร์
Auto Mode : โหมด ทำความเย็น อัตโนมัต มีผ่อนการทำงานบ้าง สลับกับโหมดอื่น โดยอัตโนมัติ ตามสภาพอากาศภายในห้อง
Temp : ปุ่มปรับอุณหภูมิ เพื่อเพิ่ม หรือ ลด
Swing : ปุ่มใช้ในการปรับทิศทางลมแอร์ ขึ้น ลง ซ้าย ขวา
Time : ปุ่มตั้งเวลา ปิด-เปิด
ON/OFF – Power : ปุ่มปิด- เปิดแอร์

ควร ล้างแอร์ ช่วงไหนดี

ข้อแนะนำแพลนเรื่อง ล้างแอร์ ช่วงไหนดี หากเป็นไปได้ ไม่มีความจำเป็น ไม่ควรวางแผนล้างแอร์ ในหน้าร้อน เดือนมีนาคม เมษายน เพราะอะไร ถึงไม่แนะนำ ใน ช่วงที่ เดือนดังกล่าว ยกเว้นมีความจำเป็นอย่างมาก แอร์เสีย กรณีฉุกเฉิน แอร์ไม่เย็น มีความจำเป็น ต้องหา ช่างแอร์ มาเซอร์วิส ในช่วงดังกล่าว แต่ ท่านจะประสบปัญหา การเรียกใช้บริการ แอร์เซฮร์วิส ในช่วง มีนาคม เมษายน เนื่องจาก ท่านจะ รอคิวช่าง นานมา เพราะ คิวช่างแอร์ จะแน่นมากใน ช่วง เดือน มีนาคม เมษายน หา ช่างแอร์ มาเซอร์วิส ยากมาก เนื่องจาก ช่างแอร์ ติดคิวยาว ไม่สามารถแทรกคิวได้ ยิ่งเป็นช่วงวันหยุดต่อเนื่อง เทศกาล สงกรานต์ 10-17 เมษายน ของทุกปี ช่างแอร์ ส่วนมากจะหยุดยาว หา ช่างแอร์ มาเซอร์วิส ให้บริการ ค่อนข้างยากมาก โทรหา ช่างแอร์ แทบจะไม่ไม่ได้รับสาย เพราะทีมช่าง ติดงานหมด หากทีมช่างกำลังทำงาน จะไม่ได้รับสาย เนื่องจากต้องทำงานให้เสร็จ ตามงานที่ ยกเว้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีความจำเป็น